สวัสดีครับ ผม นายบุญฤทธิ์ วาพัดไทย หรือ MrChimKy ขอส่งเรื่องราวความสำเร็จในการเป็น Developer ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากช่องจารย์โอมเพื่อมาแบ่งปันครับ
จุดเริ่มต้น
ทุกอย่างมันเริ่มตอนที่ผมอายุได้ 15 ปีย่างเข้า 16 ปี วันหนึ่งผมก็เริ่มฉุกคิดกับตัวเองว่า ที่ผมยังเล่นเกมทั้งวันแบบไม่ทำอะไรเลยมันดีต่อตัวผมแล้วจริงๆหรอ มันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกๆอย่าง ผมหาตัวเองมาหลายอาชีพก่อนจะมาเจอการเป็นโปรแกรมเมอร์ พอได้รู้ว่าโปรแกรมเมอร์เป็นอาชีพเกี่ยวกับอะไร และทำยังไงใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง ผมก็ได้รู้ว่าการเป็นโปรแกรมเมอร์แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลยนอกจากการศึกษาทักษะ ผมก็ได้เริ่มศึกษาว่าการทำงานแบบนี้มันต้องเริ่มยังไง ยิ่งผมศึกษายิ่งงงว่าทำไมมันซับซ้อนขนาดนี้และอีกใจก็รู้สึกท้าทายและต้องการที่จะลองดู
ช่วงอายุ 16 ปีผมก็ได้ศึกษาการเขียนโปรแกรมแต่ก็เหมือนกับทุกๆคน ผมทำได้วัน 2 วันผมก็พอ และข้ามไปอีกเดือนผมก็มาเรียนต่อและก็พอ วนแบบนี้ประมาณ 3 – 4 ครั้ง จนมีจุดเปลี่ยนคือตอนปลายปี 2022 ก็มีจุดเปลี่ยนคือ โควิด 19 และผมก็ได้เข้าเรียนในวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ โควิด 19 กำลังระบาดหนักเลยมีการปิดโรงเรียน วิทยาลัย ให้เรียนที่บ้านซึ่ง การเรียนออนไลน์ของผมนั้นมันมีเวลาว่างเยอะมาก 1 วันเรียนแค่ 2 – 4 ชั่วโมง ผมก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็ไปเห็นกระดาษในหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับเนื้อหาที่เคยเรียนเขียนโปรแกรม ก็เลยตัดสินใจนั่งเรียนตอนนั้นเรียนแบบบ้ามาก ดูคลิป 10 ชั่วโมงรวดเดียว และก็ดูคลิปเดิมซ้ำๆ หลายๆวัน และลองพิมพ์ตามที่ในคลิปพาทำ เรียนไปเรื่อยๆ HTML CSS JavaScript และใช่ครับพอถึง JavaScript ผมแตก ผมไม่เข้าใจ ผมไม่ชอบมันเลยตอนนั้น5555 ผมก็พอนะครับไม่ฝืนเรียนต่อเพราะไม่เข้าหัวแน่ๆ 5555
หลังจากนั้นพอมาปลายปี 2022 ผมก็ได้เปิดใจกลับมาเรียน JavaScript อีกครั้งและมันทำให้ผมรู้ว่า ผมแค่ไม่ต้องอคติกับมันเปิดใจแบบสุดๆ ผมก็เรียนมันได้และเข้าใจมันในที่สุด ปี 2023 ช่วงต้นปี ผมก็ได้รู้จักช่องพี่โอมมาสักพัก และเข้าไปในกลุ่มดิสดอร์ด ผมก็ได้ไปตอบคำถามต่างๆ เช่นเกี่ยวกับปัญหาโค้ต ReactJS ก็ได้มีคนหนึ่งชื่อ อาร์ม ทักผมมาขอคุยส่วนตัวช่วยเรื่องโค้ต ReactJS ก็ได้เป็นเพื่อนกันสนิทกันอยู่พักหนึ่ง จนเดือน ที่ 2 ของปี 2023 อาร์มก็ได้แนะนำงานให้ผม และเป็นงานแรกของการเป็นโปรแกรมเมอร์ ซึ่งเป็นงานร่วมระหว่างผมกับอาร์ม จนพอเดือนที่ 3 อาร์มก็ได้ส่งต่องานให้ผมมาทำคนเดียว คุยกับลูกค้าโดยตรง ตอนนั้นแหละครับบรรเทิง5555 ผมเป็น Introvert แบบสุดขั่ว การคุยกับคนแปลกหน้าแบบเร่งด่วนเป็นอะไรที่กลัวมากๆ แต่ผมก็ทำได้ เพราะผมบอกลูกค้าว่า ผมขี้อายหน่อยๆนะครับ เป็นงานแรกที่ผมได้คุยด้วยตัวเอง โชคดีที่ลูกค้าเข้าใจและให้โอกาสผม และผมก็ทำมันออกมาได้ ถึงจะไม่ได้ Perfect แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สุดยอดมากในการก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเองไปอีกก้าว
หลังจากที่ผมจบงานลูกค้าได้แยกย้าย ก็ผ่านมา 2 เดือน เดือน พฤษภาคม ของปี 2023 ผมก็ได้โพสต์หางานด้วยตัวเองใน กลุ่มนักเขียนโปรแกรม และกลุ่มอื่นๆ ซึ่งผมก็ได้นายจ้างจาก กลุ่มนักเขียนโปรแกรมและเป็นหัวหน้าผมจนถึงทุกวันนี้ แต่เรื่องราวมันมีเหตุผลของมัน ทำไมผมต้องออกมาหางาน หาประสบการณ์ ส่วนหนึ่งคือผมก็รู้มาว่าการทำงานโปรแกรมเมอร์ ไม่จำเป็นต้องใช้ใบปริญญาก็ได้ขอแค่ คุณดีพอ และอีกเหตุผลคือ ตอนนั้นผมมีความรักเป็นรักแรกของผมและเป็นรักที่เจ็บปวดที่สุด ได้เรียนรู้อะไรเยอะที่สุด และทำให้เข้าใจตัวเองได้มากเลยทีเดียว ณ ตอนนั้นผมก็มีความคิดที่ต้องการจะหางานมามากๆ เพื่อจะดูแลใครสักคน (ความคิดตอนนั้นยังแบบเด็กๆ) ก็เลยตัดสินใจหางานที่ได้กล่าวไป ซึ่งระหว่างทางที่ผมได้เรียนเขียนโค้ต ผมก็มี Project แยกย่อยมากมาย แต่ที่ใหญ่สุดคือการทำ Web Shop สำหรับมายคราฟและปล่อยเช่า ซึ่งก็มีลูกค้าคนเดียว และผมก็เลิกทำไป เป็นความล้มเหลวในการทำธุรกิจ แต่เป็นเหตุการณ์ที่ได้เรียนรู้มากเหมือนกัน
เมื่อผมได้ลองรับงานจากหัวหน้าหรือพี่มาร์ก งานแรกผมจำไม่ลืมเพราะเป็นบริษัทหนึ่งที่ผมสนใจ นั่นคือ Bitkub ผม ณ ตอนนั้นอายุ 17 ปีมันลยยิ่งตอกย้ำแรงบันดาลใจให้ผม และทำให้ผมเกิดเป้าหมายขึ้นมากมาย ซึ่งก็มีที่ทำได้และทำไม่ได้หากถามว่า ทำไม่ได้ต้องทำยังไงและตอนนั้น chatGPT ก็ยังไม่ดีเท่าตอนนี้และมันช่วยอะไรผมไม่ได้เลย ผมมีคติประจำใจที่ว่า หากทำไม่ได้แสดงว่าเรายังพยายามไม่มากพอ ผมก็ใช้คตินั้นมาตลอดการเขียนโค้ตและการทำงานนี้ ผมก็สามารถทำมันออกมาได้ตามเวลาที่กำหนดและผมก็ได้รับความใว้วางใจจากพี่มาร์ก ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ผมฝึกงานปวช. 3 หลายๆอย่างเริ่มต้น และ จบลงที่ตรงนั้น รวมถึงความรักที่ผมก็พยายามทุ่มเทที่สุด ผมก็ได้ทำงานกับพี่มาร์กจนถึงเดือน 7 ผมก็ได้เงียบหายไปสักพักเพราะความรัก555 และกลับมาอีกครั้งในเวอร์ชั่นที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ผมจำเดือนไม่ได้แต่เป็นปี 2024 ที่ผมได้กลับมาหาพี่มาร์กและขอโอกาสทำงานอีกครั้ง ซึ่งผมก็ได้งานมาเป็นเว็บเติมเกมเจ้าหนึ่งและเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ผมพัฒนาตัวเองมาถึงจุดๆนี้
ความท้าทายที่เจอ
ผมก็เป็นเหมือนคนทั่วๆไป การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ยากสำหรับผมมากๆ ความท้าทายที่สุดคือ ตัวผมเอง ตัวผมในช่วงเวลาต่างๆ ตอนมีความรัก ตอนเรียนรู้การเขียนโค้ต ตอนเผชิญกับปัญหาทางบ้าน มันทำให้ผมรู้ว่า ชีวิตเราไม่ได้มีใครมาสนใจเราขนาดนั้นจงทำในสิ่งที่ตัวเราควรจะทำ
ความท้าทายจากงานก็เป็นการที่เจอ UI แปลกๆ มันดูไม่ถูกหลักโครงสร้างแต่มันทำได้ และผมทำจนทำได้ ผมมักจะสร้างแรงกดดันให้ตัวเอง เช่นพี่มาร์กไม่เคยเร่งงานจากผม แต่ผมเร่งตัวเองให้เสร็จให้ไวที่สุดและดีที่สุด และตัวผมก็ทำมันได้
เคล็ดลับ/วิธีเอาชนะ
เคล็ดลับสำหรับผมไม่มี แต่ ผมจะแนะนำทุกคนให้คุยกับตัวเอง การคุยตัวเอง พูดคนเดียว ไม่ได้มองว่าดูเหมือนคนบ้าเสมอไป หากคุณพูด คุณคุย และมันทำให้คุณเข้าใจตัวเอง ก็ให้คุณทำมันไป ถึงระหว่างทางผมจะโดนทักเสมอว่า เป็นบ้าหรอพูดคนเดียว ผมก็ไม่สน
เอาชนะทุกคำพูด ไม่ได้ทุกคำพูดจากคนอื่นที่เขาพูดแล้วเราเป็นอย่างนั้น พื้นฐานผมเป็นคนฟังทุกคน เป็นมาคิดทุกคำ และเป็นคนคิดลบอยู่ตลอด เลยทำให้ผมมักจะจมอยู่กับคำพูดค่อยๆ แต่เมื่อผมเข้าใจธรรมชาติ เข้าใจตัวเองผมก็ไม่สนใจคำพูดเหล่านั้นอีกเลย ไม่ใช้เพราะ Ego ในตัวเรามากขึ้นแต่เราแยกแยะออกระหว่างคำพูดที่หวังดีกับคำพูดที่ดูถูก
ความสำเร็จที่ภูมิใจที่สุด
ก็จะเป็นการที่ผมได้ UI มาและผมสามารถทำมันได้โดยไม่ต้องใช้ AI แม้แต่นิดเดียวในการช่วยคิด ก็ใช้บ้างให้สร้าง Element ที่มันซ้ำๆเพราะประหยัดเวลา แต่เป็นการวางโครงสร้าง การคิดว่า Element นี้อยู่ตรงนี้ พอเป็น mobile มันย้ายไปตรงนี้ต้องใช้ CSS อะไร Class อะไร ยังไง จะเป็นจุดนี้มากกว่าที่ผมภูมิใจ และรวมถึงการคิดเป็น Logic ที่ผ่านการทำซ้ำมาตลอดการเรียนรู้ หัวผมไม่ใช่คนเก่งเลย คณิตศาสตร์ผมสุดที่ ป.6 พอขึ้นมัธยม ผมเอาตัวเองไม่ 0 ก็ยากแล้ว ถามว่ามันหน้าภูมิใจยังไง การเรียนเขียนโค้ต มันฝึกเราได้การทำงานเป็น Logic ส่วนนี้ไปลิงก์ส่วนนี้หรือ Table นี้มีการ Relation กับ Table นี้เพื่อต้องการดึงข้อมูลที่สำคัญโดยไม่ต้อง query หลายรอบ มันฝึกเรา จากการทำซ้ำวนไปวนมา มันโคตรหน้าเบื่อแต่ผลลัพธ์ มันทำให้คุณตื่นเต้น และทำให้ผมเข้าใจคณิตศาสตร์มากขึ้นแบบสุดๆ
แรงบันดาลใจ/ข้อคิดฝากถึงคนอื่น
ทุกอย่างมันเริ่มจากตัวเราและเป้าหมาย มนุษย์ไม่ได้เก่งกล้าทุกคน แต่คนที่เก่งกล้ามีเป้าหมายทุกคน ดังนั้นทุกคนควรมีเป้าหมายอาจจะเป็นน้อย หรือ ยิ่งใหญ่ แต่มีเป้าหมายแล้วก็ต้องมี Mindset ที่ดีคือ คุณไม่ควรคาดหวังว่ามันจะสำเร็จ ณ เดียวนี้ หรือในสื่อโซเชียว มีเงินล้านในอายุ 18 ใน 20 เค้าเหล่านั้นอาจเริ่มมาก่อน และเป็นทางที่เค้าเลือก เข้าใจความเสี่ยง พยายามกับมันและมันก็สําริดผล เหมือนกันหากคุณต้องการมีอนาคตที่ดีกับการเขียนโปรแกรม คุณไม่ควรคาดหวังว่าคุณจะสำเร็จภายใน 2 – 3 ปีมีเงินเดือน 100,000 บาทต่อเดือน คุณฝันได้แต่อย่าคาดหวัง ความคาดหวังจะทำให้คุณผิดหวังและทำให้คุณหยุดทำมัน และทำให้ฝันคุณพังลง จงมีเป้าหมายที่ดี และไม่คาดหวัง และมีวินัยทำมันไปเรื่อยๆ และวันหนึ่งจะมีคนมองเห็นคุณ หรือ ตัวคุณเองมองเห็นตัวเอง และทำสิ่งที่คุณต้องการได้ออกมาในสักวันหนึ่ง
สรุปสั้นๆ
- 1. ตั้งเป้าหมาย
- 2. ไม่คาดหวัง
- 3. พยายามเสมอ
- 4. ทำไม่ได้ก็ทำมันอีกรอบ
- 5. อนาคตที่ดีมาพร้อมความคิดที่ดี
ยกตัวอย่างกรณีผมเกี่ยวกับความพยายาม วินัย และการมีเป้าหมาย
ผมเป็นคนเล่นกีต้าร์ไม่เป็น นิ้วแข็งและล็อกเพราะกดแต่เมาส์ พิมพ์แต่คีย์บอร์ด แต่ผมก็ได้มีความรักและผมก็อยากเล่นกีต้าร์เพื่อให้เค้าได้ฟัง ร้องไปจีบอะง่ายๆ555 ซึ่งแรกๆก็ตามคาดผมเล่นไม่ได้เลย กดก็เจ็บ ดีดก็ไม่เป็น หาจังหวะไม่ได้ เปลี่ยนคอร์ดไม่ได้ แถวเล่นไปๆ นิ้วล็อกอีก
แต่หลังจากผมทำแบบนั้นอยู่ 3 เดือน ทุกวันหลังเลิกเรียนผมจะไปขอกีต้าร์อาจารย์ หัดๆ ซ้อมๆ อาจารย์ก็มาช่วยสอนให้อีกเพราะอะไร เพราะความพยายามไง หากคุณเล่นแค่วัน 2 วันเค้าไม่สอนคุณหรอก แต่ผมเล่นทุกวันตอนเย็น ทำแบบนี้ตั้งแต่เปิดเทอมจนตอนนี้จะปิดเทอม ผลลัพธ์คือ ผมเล่นกีต้าร์ได้ กดไม่เจ็บ เล่นเพราะ กดแทบจะไม่บอด เปลี่ยนคอร์ดไม่บอด จากสิ่งเล็กๆคือ อยากเล่นไปจีบสาว เป็นการเพิ่มสกิลในการเล่นดนตรีมา 1 อย่างทั้งๆที่หากผมจีบไม่ติด ไม่สำเร็จในเป้าหมายแต่ผมก็ได้สกิลการเล่นมาแล้ว และ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความพยายามอย่างต่อเนื่องไม่ทำให้ใครผิดหวัง ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น มันไม่เกินจริงใช้มาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นแม่ หากเราพยายามและมันไม่ได้นั่นแสดงว่าคุณยังทำมันไม่ดีพอ จงพยายามต่อไป ขอบคุณครับ
ขอขอบคุณสำหรับโอกาสดี ๆ ที่ให้ผมได้แบ่งปันเรื่องราวครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง, บุญฤทธิ์ วาพัดไทย (MrChimKy)

แม่ภูมิใจชิมมาก รักลูกครับ ขอบคุณที่คุณมีความคิดที่ดี จงสร้างสรรค์ชีวิตให้มีความสุข ประสบความสำเร็จดังตั้งใจ เป็นกำลังใจให้ลูกตลอดไป